ขับรถชมทิวเขา รับอากาศบริสุทธิ์ โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี
Dolomites เทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ได้รับการขนานนามว่าเป็นเทือกเขาที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนได้ประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2009 เพราะความสวยงามของหน้าผา และ ทิวเขาสูงสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยธรรมชาติโอบล้อม จนเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตมาแรง ของคนรักธรรมชาติ
Dolomites การเดินทางไปเมืองแห่งหุบเขานี้สามารถมาได้จากหลายทางครับ ครั้งนี้เราจัดทริปเป็น Venice-Dolomites-Milan โดยบินลงที่เวนิส เช่ารถขับต่อไป Dolomites และจบทริปคืนรถและบินกลับจากเมืองมิลาน สำหรับการเช่ารถขับไป Dolomites สามารถใช้รถเก๋งได้ทุกประเภท ถนนการเดินทางดี และสะดวก ไม่น่ากลัวเลยครับ ส่วนใครที่ไปกันหลายท่าน และต้องการเช่ารถตู้ เกียร์ออโต้ แนะนำเช่าของ noleggiare เพราะบริษัทส่วนใหญ่รถตู้เป็นเกียร์ธรรมดาหมดเลย หลายคนอาจจะไม่ชินครับ การเช่ารถสามารถเลือกรับ-ส่งรถ คนละเมืองได้แต่จะมีค่าใช้จ่ายคืนต่างเมืองเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ
Day 1 (Cadini di Misurina - Lago di Misurina - Lago Antorno - Lago di braies)
วันแรกเราออกจากเมืองเวนิสตั้งแต่เช้า เช่ารถขึ้นเหนือมุ่งหน้าสู่ เทือกเขา Dolomites ใช้เวลาเพียง 2.30 ชม. ก็ถึง Lago di Misurina (Lake Misurina) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โอบล้อมด้วยทิวเขา แวะเดินเล่นตามแนวทะเลสาบ และทานอาหารกลางวันที่ร้าน Quinz ร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดัง ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ รสชาติอร่อย วิวสวย บรรยากาศดีครับ
หลังจากทานข้าวเสร็จเราขับรถมาต่อกันที่ Lago Antorno (Lake Antorno) ห่างกันเพียง 2 กม. เท่านั้น ระหว่างทางที่ขับใน Dolomites สามารถเป็นวิวถ่ายรูปได้หมดเลย เพราะบรรยากาศรอบตัวจะเป็นทิวเขาสูงชัน สลับซ้อนไปมา ล้อมรอบเรา สวยมากๆครับ คืนนี้เราไปจบทานข้าวเย็นและพักที่โรงแรม Hotel Pragser Wildsee ริมทะเลสาบ Braies ครับ
*จริงๆวันแรกนี้เราแพลนไปที่ Cadini di Misurina จุดเดินเทรลชมวิว ที่ฮิตมากๆด้วย แต่เนื่องจากสภาพอากาศหมอกลงและฝนตกหนัก ทำให้เราพลาดโอกาสนี้ไป เสียดายมากๆ ครับ ใครที่มา Route นี้ สามารถแพลน แวะ Cadini di Misurina เป็นจุดแรกได้เลย
Day 2 (Lago di braies - Rifugio delle Odle - Santa Maddalena)
เช้านี้ที่ โรงแรม Hotel Pragser Wildsee เป็นโรงแรมแห่งเดียว ที่จะได้เห็นวิวทะเลสาบ Lake Braies แบบเต็มๆ นั่งดูวิวนี้จากห้องนอนได้ตั้งแต่เช้า-เย็นแบบจุกๆ บอมแนะนำให้จองที่พักล่วงหน้า สามารถจองตรงกับทางโรงแรมได้ที่ Hotel Pragser Wildsee เลยครับ
ระหว่างการขับรถตลอดทริปนี้เราได้มี โอกาสใช้ Stress Away Aroma Mist ของ Sabai arom พกพาง่ายขนาด 15ml. เป็นสเปรย์ช่วยให้ผ่อนคลาย และสดชื่น สามารถสร้างบรรยากาศได้ดี ในช่วงเวลาที่ขับรถบนเขานานๆ สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจ การได้กลิ่นสดชื่นๆ แนวสเปียร์มินต์ สามารถทำให้กระปรี้กระเปร่าได้ดีทีเดียวครับ
หรือจะเป็น Sleep Well Pillow Mist ที่นำด้วยกลิ่น ลาเวนเดอร์ ใช้ฉีดหมอน หรือ ผ้าห่มก่อนนอนช่วยให้หลับลึก หลับสบายยิ่งขึ้น ยิ่งไปเที่ยวต่างถิ่น หรือต้องปรับ Time Zone ด้วยแล้ว ถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากครับ
กิจกรรมตอนเช้า สำหรับใครที่อยากเดินเทรล มีหลายเส้นทางให้เลือกครับ แล้วแต่ระยะเวลา ความยากง่าย ที่ต้องการ โดยที่สามารถสอบถามเส้นทางจาก reception โรงแรม ได้เลย เส้นทางที่เราเดินเช้านี้ คือ เดินเส้นทางรอบทะเลสาบ ใช้เวลาเดินเล่น ชมวิวถ่ายรูป ประมาณ 2 ชม. และกลับมากินข้าวเช้าที่โรงแรม อากาศดี สะอาดมากๆครับ หายใจสดชื่นเต็มปอด
ออกจากโรงแรมประมาณ 11:00 น. เราขับรถไปต่อกันที่ Rifugio delle Odle ที่พักและร้านอาหารบนหุบเขา วิวหลักล้านเพียงหนึ่งเดียว และที่นี่ รถทั่วไปไม่สามารถขึ้นมาได้ ต้องเดินเทรล ชมธรรมชาติข้างทางขึ้นมาโดย ให้เผื่อเวลาไปกลับประมาณ 4 ชั่วโมง สำหรับการเดินขึ้น-ลงเขาลูกนี้ครับ แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าไม่ไหว หรือพาผู้ใหญ่ไปด้วย สามารถติดต่อ Local Taxi ได้ครับ ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ราคาต่อเที่ยวคนละ 10 ยูโร
Local Taxi มีเพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่สามารถขึ้นไป Rifugio delle Odle ได้ และวิ่งเพียง 6 รอบ/วัน สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 348-762-6454 แนะนำให้คุยนัดผ่าน Messages เพราะเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ พิมพ์คุยจะเข้าใจง่ายกว่า โดยเขาจะให้ไปจอดรถที่ Zanser Alm และขึ้นรถตู้ของเขาไปครับ คนละ 10 ยูโร/เที่ยว เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนแล้วอย่าลืมนัดเวลากลับให้เขาขึ้นมารับนะครับ
หลังจากลงมาจาก Rifugio delle Odle แล้วเรามาแวะเดินเล่นที่ Santa Maddalena หมู่บ้านขนาดเล็กที่มีหลักร้อยคนเท่านั้น ล้อมรอบไปด้วยหุบเขา น่าอยู่มากเลยครับ
Sabai arom Essential Oil Mist (Travel Size)
สเปรย์น้ำมันหอมระเหย แบบพกพาระหว่างท่องเที่ยว เพื่อผ่อนคลายความเครียดและช่วยเรื่องการนอนหลับพักผ่อน
1. Stress Away Aroma Mist 15 ml. ช่วยปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายระหว่างเดินทางในยามที่รู้สึก เหนื่อยล้า เครียดหรือกังวล ด้วยสรรพคุณของ สเปียร์มินต์ ตะไคร้ มะกรูด และลาเวนเดอร์
2. Sleep Well Pillow Mist 15 ml. ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายหลับสบาย ได้เต็มที่แม้อยู่ต่างถิ่น หรือที่ไม่คุ้นเคย ระหว่างท่องเที่ยว ด้วยสรรพคุณของ ลาเวนเดอร์ กระดังงา คาโมมายล์ และยูคาลิปตัส
Day 3 (Ortisei - Seceda - Seceda Alm)
เช้าวันที่ 3 เรามีแพลนขึ้นกระเช้าไปที่ภูเขา Seceda โดยสามารถจอดรถที่สถานีกระเช้า Seceda ได้เลยครับ อยู่ที่ Ortisei เมืองขนาดเล็ก ท่ามกลางหุบเขา เราสามารถเดินเที่ยวชมเมือง แล้วค่อยขึ้นกระเช้าก็ได้ อยู่ในระแวกเดียวกัน
บรรยากาศด้านบน มีร้านอาหาร Baita Sofie และ สามารถเดินเทรลตามเส้นทางเขาได้ด้วยครับ
เย็นวันนี้เราขับมาพักกันที่ เมือง Seiser Alm เป็นที่ราบบนเขาที่ใหญ่ที่สุดของ Dolomites เป็นที่ที่ผู้คนมักนิยมมาเดินเทรลกัน หรือในช่างหน้าหนาวก็เป็นที่เล่นสกีที่ดังมากๆครับ เรามาถึงช่วงเย็นๆ ใช้บริการรถม้านั่งชมเมือง อากาศเย็นสบายๆ แล้วค่อยเข้าที่พัก
Day 4 (Seiser Alm - Florian - Lake Carezza)
เช้านี้เราแพลนที่จะไปชมวิว ด้านใน Seiser Alm เพื่อขึ้นกระเช้าไปที่จุดชมวิว Florain สามารถเข้าไปได้โดยรถโดยสารสารธารณะเท่านั้นครับ เราสามารถจอดรถของเราไว้ที่โรงแรม แล้วหาป้าย bus stop ได้เลย ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นเดียว วิ่งวนไป-กลับ มีทางค่อนข้างแคบ จึงไม่ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าออกครับ สองข้างทางจะเป็นวิวที่ราบขนาดใหญ่ และล้อมรอบด้วย ภูเขาตลอดเส้นทางครับ
ต่อจากนั้น เราขับรถไปแวะที่ Lago di Carezza (Lake Carezza) เป็นที่สุดท้ายก่อนมุ่งหน้าเข้าเมืองมิลาน เมืองสุดท้ายก่อนบินกลับไทยครับ
Lago di Carezza ทะเลสาบอัลไพน์ขนาดเล็กที่มีน้ำสีเขียวมรกตและมีเทือกเขา Latemar เป็นฉากหลัง ให้ภาพสวยแบบสมบูรณ์แบบ ที่แห่งนี้มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่จอดรถ ร้านอาหาร ร้านค้าที่คอยให้บริการครับ