Fine-Dining คอนเซ็ปวัตถุดิบท้องถิ่นหาทานยากหลากหลายชนิด ต้อนรับฤดูกาลใหม่จากร้านบ้านข้าว
กลับมากันอีกครั้งกับร้านบ้านข้าว Fine-Dinig ย่านพระราม 2 หลังจากที่ รอบที่แล้วมาทานแล้วติดใจมาก ใครที่ต้องการ ดูรีวิวของคอร์สอาหาร Season ที่แล้ว สามารถคลิก ที่นี่ ได้เลยครับ เกริ่นให้ฟังกันอีกรอบว่า ร้านนี้เกิดจากการรวมกลุ่มของพี่น้องและเพื่อน ที่ต่างมีใจรักในการทำอาหาร สร้างสรรค์ผลงานกันเองด้วยใจรัก โดยเชฟแต่ละคนก็ผ่านกันมาหลายเวทีแล้ว
สำหรับ Season นี้ ตุลาคม - ธันวาคม เชฟมาในคอนเซ็ปอาหารป่า ของหาทานยากที่นำมาสร้างสรรค์ด้วยวัตุดิบท้องถิ่นจากหลากหลายภูมิภาคของไทย วันนี้เราจะมารีวิวให้ดูกันว่าจะน่าสนใจขนาดไหน สำหรับ ค่ำคืนนี้เสิร์ฟทั้งหมด 9 คอร์ส ราคา 1690 บาท/ท่าน ครับผม
คอร์ส 1: AMAEBI
จานแรกของฤดูกาลนี้เปิดอย่างน่าสนใจ ด้วยเมนูกุ้งอามาเอบิ ทาทาร์ ท๊อปบนดอกกระเจียวจากยโยธร ปรุงรสชาติแบบไทยๆ นัว อร่อยทานทั้งคำ
คอร์ส 2: CROMESQUI
ตามด้วย cromesqui สไตล์ฝรั่งเศส ที่สอดไส้ด้วยปลากระพงตุ๋นนม และทาบาสโกมาโย แป้งด้านนอกกรอบ ด้านในสัมผัสรสชาติปลาเน้นๆ หอมนม
คอร์ส 3 : PEN SHELL
ถึงคอร์สที่ 3 กันแล้ว เมนูนี้น่าสนใจมากๆ จานนี้คือสลัดหอยจอบ พระเอกของจานคือหอยจอบ จากเรือบ้านอำเภอ ที่สัตหีบ ที่นำมาปรุงแบบไทยเพสโต้ ด้วยใบยี่หร่า โหระภา แตงกว่าญี่ปุ่น มันแกว ให้รสชาติฉุนแบบซอสเพสโต้เป็นไทยสไตล์ เนื้อหอยปรุงสุกกำลังดี เนื้อเด้ง หนึบหนับ สดมากๆครับ
คอร์ส 4 : FROG LEG
จานนี้คือซุปขากบ หลายคนอาจจะเกิดอาการไม่กล้าทานขากบ แต่อยากให้ลองเปิดใจ เพราะ texture ของกบ คือดีมากๆ เนื้อเด้งแน่น เหมือนเนื้อไก่ที่พรีเมี่ยม จานนี้ขากบเข้ากันดีกับ น้ำซุปหอมกลมกล่อมที่ทำจาก ชาเห็ด คาโมมาย เห็ดปักเป่า และโรยด้วยข้าวเม่าทอดจากยโสธร ได้มิติ ทั้งหอม กรอบ หนึบ รสชาติเบาสบายแต่กลิ่นหอมคลุ้ง ถูกใจมากครับ
คอร์ส 5 : WILD CATFISH
จานนี้คือปลาคังครับ เชฟใช้วิธีกงฟีด้วยน้ำมันหมาล่า เสียบไม้ลำไย ทำให้กลิ่นลำไยแห้งหอมอ่อนๆ ชิ้นแรกท๊อปด้วย ซอสมะละกอ และตามด้วยแคปหนังปลาคัง รสชาติจัดจ้าน เนื้อปลาแน่น สด ไม่เหม็นคาวครับ โดยเริ่มทานจาก ทอปซอสมะละกอก่อน ให้รสสัมผัสที่อ่อนจนถึงเข้ม รสชาติเข้าเนื้อ และเนื้อปลาสุกกำลังดีไม่กระด้างเลยครับ
คอร์ส 6 : WILD BOAR
เมนูหมูป่าจานนี้ ถูกทำออกมาในรูปแบบของ เมนูพาสต้าเส้นสด อย่าง Chitara pasta ด้วยการใช้มือรีด โดยมีเนื้อสัตว์เป็นหมูป่า จากอยุธยา ปรุงด้วยซอสฮาริซ่า ถั่วเน่า ชีสพาเมซานบ่ม 24 เดือน ให้อร่อยรสชาติจัดจ้าน เป็นจานอาหารฝรั่งที่มีกลิ่นอายความไทยอย่างชัดเจน เข้มข้น เส้นสดเก็บซอสได้เป็นอย่างดีครับ
คอร์ส 7 : TAKO
เมนูคอร์สนี้คือคาดไม่ถึงมากๆ มันคือหนวดปลาหมึกปรุงสุกด้วยวิธีซูวีที่ 83 องศา เป็นเวลา 4 ชั่วโมง วัถุดิบที่นำมาปรุงซอสเป็นการผสมกันระหว่าง ข้าวแข่จากแม่ฮองสอน ข้าวโพดข้าวเหนียว ซุปข้าวโพดที่ปั่นเอาน้ำขึ้นหม้อกวนจนกลายเป็นคัสตาร์ดและผักโรยทานกับทาโกะแล้วลงตัวมากๆ ครีมมี่แต่ไม่เลี่ยน จานนี้ให้เต็ม 10 ไม่หักเลยครับ
คอร์ส 8 : FREE RANGE CHICKEN / VENISON
Main Course ของฤดูกาลนี้มีให้เลือก 2 ตัวด้วยกันครับ จานแรกคือ เนื้อกวางรูซา จากฟาร์มที่ชะอำ ใช้ส่วนลูกมะพร้าวมาย่าง อบ เนื้อจะมีลักษณะสู้ฟัน เนื้อนุ่มไม่เหนียว ทานคู่กับมะเขือม่วงเผาหอมๆ และซอสซะเอมเทศมักเม่า เข้ากันดีมาก ส่วนจานที่สองคือ ไก่โคราชเนื้อนุ่มออกรสเค็ม ทานคู่กับเจลกระเทียมดำและน้ำพริกแคปไก่ที่ออกรสวหวาน ลงตัว ถ้าไปทานเราแนะนำว่าให้สั่งทั้ง 2 แบบ แล้วแบ่งกันทานครับ เพราะว่าอร่อยทั้งคู่ เลือกไม่ถูกเลย อยากให้ได้ชิมทั้ง 2 อย่าง
คอร์ส 9 : MONT BLANC
ก่อนจบคอร์ส ล้างปากด้วยของหวานกันซักนิด เมนูด้านซ้ายคือ มะเฟืองพริกเกลือชมพู ด้วยการนำมะเพืองไปต้ม น๊อคน้ำเย็น และลอกผิว ใช้แต่เนื้อด้านเพื่อไม่ให้รสฟาด และเข้าเครื่องปั่นไอติม ให้รสชาติสดชื่นดับคาวได้ดีครับ ส่วนเมนูด้านขวาคือขนมหวาน มองบลังค์ด้วยคอนเซ็ปภูเขาสีขาวด้วยเผือกเอสพูม่า แห้วดองไวน์ขาว และปลาช่อนทะเลคินาโกะครับ
TEA
ปิดท้ายกันด้วยชาร้อนหอมๆ ครับ เป็นการผสมของชาใบฟิก มะเดือฝรั่ง ใส่หญ้าหวาน มะตูมแขก และใบโปร่งฟ้า สมุนไพรตามฤดูกาล เทด้วยน้ำร้อน 80 องศาเป็นเวลา 4 นาที ชาหอมมากๆครับ ทานคู่กับขนมไข่ฝรั่งเศษ ส้มซ่า จบด้วย ใบโปร่งฟ้า กินปิดล้างปากด้วยรสชาติคล้ายมิ้น ให้ความเย็นสดชื่น ปากสะอาด
คอร์สนี้จะเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ ตุลาคม - ธันวาคมนี้ เท่านั้นใครที่สนใจแนะนำให้รีบจองเลยครับ เพราะบ้านเชฟเปิดรับแค่วันละ 1 โต๊ะเท่านั้นรับรองได้มากสุด 8 ท่านต่อรอบครับ