Kang Vela

“แกงเวฬา” ร้านข้าวแกงที่ใส่ใจกับการคัดสรรวัตถุดิบและการปรุง เพราะทุกมื้ออาหารควรเป็นเวลาแห่งความสุข

ร้านแกงเวฬา ตั้งอยู่บนถนนรอบเมืองเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กม. เป็นร้านข้าวแกงธรรมดาๆ เรียบง่าย แต่แน่นไปด้วยความตั้งใจ ความใส่ใจของคนทำ วันนี้เราได้มีโอกาสคุยกะป้านุชและเชฟนีฟ เจ้าของร้านแกงเวฬาแห่งนี้ ป้านุชเล่าว่าเมนูอาหารแต่ละวันที่ขายในร้านจะไม่ซ้ำกันเลย เพราะอาหารที่ทำขายในร้านคืออาหารที่ทำทานกันเอง “วันนี้กินอะไร ?” เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน มี concept แค่ว่าในหนึ่งสำรับต้องมีครบทั้ง ต้ม ผัด แกง ทอด โดยมีเชฟนีฟและสามีป้านุช เป็นคนเข้าครัวเพราะทั้งสองชื่นชอบและมีความสุขในการทำอาหาร

ทางร้านมีความเรียบง่ายแต่ลงตัวที่สุด ร้านตั้งอยู่ในโกดังธรรมดาๆ ที่มองข้างนอกแทบจะไม่รู้เลยว่าในนี้มีร้านอาหารด้วย การตกแต่งร้านเกิดจากการเอาของที่มีอยู่แล้วมา mix and match กันแทบไม่มีอะไรต้องซื้อใหม่เลย และทางร้านยังมีแนวทางชัดเจนว่าจะไม่ใช้ single-use items เช่นที่ร้านนี้จะไม่มีทิชชู่ให้ลูกค้า แต่จะมีผ้าเช็ดปากให้แทนและป้านุชเป็นคนซักรีดเองทุกวัน หรือแม้แต่ถุงใส่ห่อกลับบ้านก็ไม่มีเช่นกัน ลูกค้าต้องเตรียมปิ่นโตหรืออุปกรณ์มาใส่กับข้าวเอง หรือทางร้านก็มีจำหน่ายในราคาย่อมเยาว์มากๆ จนตอนนี้ลูกค้าเริ่มเห็นความสำคัญและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากขึ้น นอกจากใส่กล่องกลับบ้านแล้ว ถ้าไม่มีที่ใส่ป้านุชยังมีผ้าผูกปิ่นโตให้ยืมอีกด้วยไม่ได้คิดเงิน ถือเป็นสัญญาใจให้นำมาคืน คล้ายๆการผูกของญี่ปุ่น ซึ่งป้านุชบอกว่ามันมีมานานมากแล้วและมันช่วยให้เราลดการใช้พลาสติกไปได้เยอะมาก

แม้ว่าเมนูในแต่ละวันจะหมุนเวียนไปแต่จะยังคงมีหนึ่งเมนูที่จะมียืนพื้น เป็นเมนูที่มีทุกวันซึ่งก็คือ เมนูแกงเวฬานั่นเอง แกงเวฬาคือมัสมั่นเนื้อ ใครมาก็ต้องลองเพราะอร่อยมาก ที่ชื่อนี้เพราะจะอร่อยได้ต้องใช้เวลาในการเคี่ยวให้เข้าเนื้อถึงจะมีรสชาติที่หอม เนื้อเปื่อยนุ่มอร่อยนั่นเอง สำหรับเมนูอื่นๆจะมีอะไรน่าทานขนาดไหน ไปดูกันเลยครับ

วันนี้เมนูที่เราได้ลองคือ แกงเวฬา ต้มจืดรากบัวถั่วลิสง หมูตุ๋นซาโจ้ กุ้งผัดพริกเกลือ และเกาะแก้วพิสดาร (หมูปลาเค็มนึ่ง ใส่ไข่เค็ม) ทุกเมนูเกิดจากการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ไม่ผสมผงชูรส รสชาติอร่อยเข้มข้น เป็นข้าวแกงที่ดูธรรมดาๆ แต่รสชาติแน่นทุกคำ ทานไปก็มีความสุขไป อยากให้ทุกคนได้มาลองกันครับ

นอกเหนือจากการทำข้าวแกงแล้ว ทางร้านยังมี 3 วันพิเศษในแต่ละเดือนที่จะมีเมนูพิเศษตามคอนเซ็ปเพิ่มความสนุกในการทานของลูกค้าและตัวเชฟเองในแต่ละวัน เช่น ทางร้านมีขนมจีนเดย์ ที่ลูกค้าจะได้ทานขนมจีนกับน้ำแกงต่างๆที่หลากหลาย หรือจะเป็น ด้งเดย์ที่ทางเชฟจะทำข้าวหน้าเนื้อเป็นต้น

เมื่อได้คุยกับทางเชฟนีฟและป้านุชแล้ว เราสัมผัสได้ถึงความสุขและความตั้งใจ จริงใจในการทำงานที่มันส่งต่อมายังจานอาหารจนไปถึงลูกค้าที่สามารถสัมผัสถึงพลังงานบวกเหล่านั้น ขอขอบพระคุณเชฟนีฟและป้านุชที่ได้แชร์เรื่องราวดีดีให้กันครับ