Na Rimtang

ร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ที่ส่งต่อตำรับอาหารกันรุ่นสู่รุ่น จนเป็นร้านยอดนิยมประจำเมืองภูเก็ต

หากพูดถึงร้านอาหารพื้นเมืองของภูเก็ตแล้ว “ณ ริมทาง” เป็นอีกหนึ่งร้านที่คนพูดถึงมากที่สุด เพราะเป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารสดใหม่ ปรุงอร่อยจนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ไม่ใช่เฉพาะของคาวเท่านั้นที่อร่อย แต่ของหวานของที่นี่ก็ขึ้นชื่อของอร่อยระดับประเทศไปเรียบร้อยแล้วด้วยเมนู homemade “เฉาก๊วย” เมนูของหวานธรรดาที่รสชาติยากจะมีที่ไหนเทียบได้ เนื่องจากร้านนี้พึ่งปรับปรุงร้านใหม่ในรอบ 8 ปี ทาง takeoff.bkk เลยถือโอกาสพามาชมบรรยากาศและบรรยายความอร่อยของเมนูอาหารกันครับ

ร้านพึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่เสร็จเมื่อต้นปี 2020 นี่เอง คุณเต้และคุณพิ้งมารับช่วงต่อช่วยคุณแม่ในการบริหารจัดการร้าน เนื่องจากทั้งสองคนจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบจึงตั้งใจกลับมาช่วยที่บ้านพัฒนาร้าน โดยร้านถูกจัดสรรใหม่ให้เป็นระบบมากยิ้งขึ้นแต่ยังคง กลิ่นอายและรสชาติไว้ดีเช่นเดิม ทางร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ ครับคือ โซนร้านอาหาร “ณ ริมทาง” และโซนร้านของฝาก “PAKABURA” ซึ่งแบรนด์นี้ก็ทำของฝาก ขนม homemade ที่ทำกันสดๆในร้านให้ลูกค้าได้ดูได้ชมกันด้วยเลย

ก่อนจะไปถึงเมนูหลัก ขอแนะนำขนมหวานขึ้นชื่อของที่นี่ก่อน “เฉาก๊วยภูเก็ต” สูตรดั้งเดิมของทางร้าน ที่มีมากว่า 20 ปี homemade ทำกันเองไม่ใส่สารกันบูด สดใหม่ทุกวัน ด้วยข้อจำกกัดความอร่อยสดใหม่นี้ ทำให้เมนูเฉาก๊วยโด่งดังไปทั่ว จนเมื่อเอ่ยถึงเฉาก๊วยภูเก็ต ก็หมายถึงเฉาก๊วยของร้าน ณ ริมทางนั้นเอง โดยเฉพาะเมนู เฉาก๊วยพุดดิ้งมะม่วงนมสด เราชอบมากอันนี้ THE BEST!

ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องใช้ของสด ของคุณภาพดี เพราะจนถึงทุกวันนี้เจ้าของยังคงเป็นคนจ่ายตลาดคัดของด้วยตัวเองอยู่เลย และเนื่องจากมีรุ่นลูกมาช่วยพัฒนาร้านด้วยแล้วจึงมีเมนูใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมจากเมนูดั้งเดิม เรียกได้ว่าเป็นเมนู Twist เพื่อความแปลกใหม่ของลูกค้าครับจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

เมนูแรก Appetizer ของเราคือ “ปอเปี๊ยะปู” กรอบอร่อยไม่อมน้ำมัน ที่สำคัญด้านในแต่ละคำคือปูเป็นก้อนแบบไม่กั๊กเลยครับ

ชุดห่อหมกภูเก็ต ประกอบไปด้วยห่อหมกปู ห่อหมกปลาริวกิว และ ห่อหมกปลาทะเลครับ โดยสามารถเลือกใส้ได้ตามความต้องการครับผม ยังยืนยันคำเดิมที่นี่อาหารสดอร่อยครับ

ชุดน้ำพริกภูเก็ต ที่นี่มีน้ำพริกให้เลือกกว่า 9 ชนิดด้วยกัน สำหรับวันนี้เราเลือกเป็น น้ำพริกไข่ปูทานคู่กับผักสดชนิดต่างๆ เมนูนี่มองๆไปอาจจะดูเหมือนกับที่อื่นๆ แต่อยากให้ลองครับ เพราะนอกจากน้ำพริกที่รสชาติเข้มข้นไข่ปูเน้นๆแล้ว ผักพื้นบ้านที่นี่สดใหม่ทานอร่อยครับ

ใบเหมียงผัดไข่ เมนูประจำภาคใต้ที่ต้องมีทุกร้าน และสำหรับเราคือกินทุกมื้อเวลามาเที่ยวใต้ ที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆครับ ที่ร้านนี้เสิร์ฟแบบเป็นกระทะร้อน ทำให้อาหารอุ่นอยู่ตลอดเวลาครับ

เมนูสุดท้ายของเมนูดั้งเดิมของเราก็คือ “แกงเหลืองปลากระพงมะพร้าวอ่อน” ซึ่งแกงของที่นี่ลูกค้าสามารถ customize เองได้หมดเลยทั้งเนื้อสัตว์และผักชนิดต่างๆที่ใส่ลงในแกง ตามความต้องการของลูกค้าเลยครับ โดยเมนูที่ร้านจะมีขั้นตอนการเลือกอย่างชัดเจน ง่ายมากๆครับ

สำหรับเมนูสมัยใหม่ ที่ทางร้านนำเมนูเดิมมาประยุกต์วันนี้เราได้ลองกันทั้งหมด 2 เมนูครับ ฝีมือรุ่นลูกไม่แพ้รุ่นแม่เลยจริงๆ แต่ได้กลิ่นอายความทันสมัยมากขึ้น เมนูแรกคือ ราดหน้า

อีกเมนูคือ “ข้าวผัดแกงไตปลาหมูทอดน้ำปลา” อันนี้ประทับใจมากครับสูตรแกงใต้ปลาของทางร้านปรับโดยการนำมาผัดกับข้าว และโป๊ะหน้าด้วยหมูทอดน้ำปลาเพื่อลดความเผ็ดของข้าวผัดอย่างลงตัว ทานง่ายจานเดียวอิ่ม หรือใครที่ไม่ทานเผ็ดผมแนะนำเลยให้สั่งหมูทอดน้ำปลาเป็นกับข้าวครับ ที่นี่อร่อยจริงๆครับ ไม่อยากให้พลาด

มาดูเมนูเครื่องดื่มกันบ้าง เมนูแรกคือ “ชาไทยไข่มุกเฉาก๊วย+โฟมกะทิอัญชัน” ความพิเศษของมันคือที่ร้านไม่ได้ใช้ไข่มุกธรรมดาแบบร้านอื่น แต่เป็นไข่มุกเม็ดเล็กๆที่ทำมาจากเฉาก๊วยสูตรพิเศษของทางร้านนั่นเองบวกกับชาไทยเข้มข้นและยังหอมกลิ่นกะทิอัญชัญเนื้อนุ่ม

ส่วนเมนูที่สองคือ “มะม่วงเบาสดปั่น+เกลือเคย” เมนูนี้แตกต่างจากที่อื่นๆเลย ใช้มะม่วงเบาสดนำมาปั่นโดยไม่มีรสฝาดเลย และมีเกลือเคยให้จิ้มแกล้มด้วย ใครที่ชิมแล้วชอบยังสามารถ ซื้อเป็นกระปุกกลับบ้านได้อีกด้วยครับ

เมนูของหวานที่นี่ เด่นไม่แพ้เมนูหลักเลย อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ไม่ได้มีเป็นแค่เมนูเสริม คือถ้าที่ร้านจะเปิดแยกเป็นร้านขนมหวานเลยเราก็มองว่าพร้อมมากๆ วัตถุดิบที่นี่ homemade ทั้งหมด อร่อยสดชื่น หวานน้อย รสชาติเป็นเอกลักษณ์แบบที่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน ทั้งๆที่เป็นเมนูที่ดูง่ายๆแต่รสชาติล้ำลึกมากครับ คงเป็นเพราะการทำวัตถุดิบทั้งหมดเองโดยที่ไม่ได้รับมาแบบสำเร็จรูปแบบร้านอื่นๆ ทำให้ราชาติขนมของที่นี่โดดเด่นมากๆนั่นเอง

1. เฉาก๊วยจักรพรรดิฮกเกี้ยน
2. บิงซูบัวลอยหิมะกะทิ+ไอศกรีมไข่เค็ม+ไข่เค็มลาวา
3. บิโกหมอย (ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ)+ไอศกรีมไข่เค็ม
4. หยินหยาง (เฉาก๊วย+โอ๊วเอ๋วภูเก็ต)

สำหรับ Afternoon Tea ที่นี่ก็มีครับในรูปแบบต้นตำหรับจีนแท้ ชุดชาฮกเกี้ยนยามบ่ายซึ่งเสริฟเป็นชาร้อน พร้อมกับชุดขนมภูเก็ต homemade ครับ โดยตามความเชื่อของจีนแล้วเมื่อดื่มชา จะต้องรินราด ตัวกิมเซียมซูด้วย ถือเป็นการบูชาเพื่อความร่ำรวยนั่นเองครับ