Panpuri Wellness

The ultimate relaxation onsen and spa experience in the heart of Bangkok, PANPURI WELLNESS

วันนี้ takeoff.bkk จะพาคุณมาผ่อนคลายที่สปาสุดหรูใจกลางเมืองที่ PANPURI WELLNESS กันครับ ที่นี่นับเป็นสปาออนเซ็นล่าสุดของกรุงเทพฯ ที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยสถานที่ การบริการ ความสะอาด และความหรูหรา โดยสปาแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ของ Gaysorn Village ตรงแยกราชประสงค์ครับ แบ่งได้เป็น 3 โซนหลักๆ คือ ออนเซ็น, นวดสปา, และร้านอาหาร โดยทั้งอาหาร ของใช้ อุปกรณ์ของที่นี่ที่สัมผัสกับลูกค้าเป็น organic ingredient ทั้งหมดเลยครับ ค่าบริการเป็นแบบ All Day Pass อยู่ที่ท่านละ 750 บาทเท่านั้น อยู่ได้ทั้งวันเลย

เริ่มจากโซนอาหารก่อนครับ Wellness Cuisine วัตถุดิบทั้งหมดที่ทำ เป็น organic และเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีครับ จะเน้นไปทางผักสลัด อกไก่ แซลม่อนย่างครับ ส่วนเครื่องดื่มก็เป็น organic juice หรือพวกชาต่างๆที่มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูด้านต่างๆของร่างกายครับ โดยเราสามารถมาแช่ออนเซ็น และออกมารับประทานอาหาร นั่งทำงานพักผ่อน และกลับไปแช่ออนเซ็นอีกรอบก็ได้ครับ

มาถึงโซน ออนเซ็นกันบ้าง ที่นี่นับว่าเป็นออนเซ็นหรูหราและมีพื้นที่เยอะที่สุดที่เราเคยไปมาเลย มีการจัดการอย่างเป็นระบบแยกโซนชัดเจน มีความเป็นส่วนตัวสูง เมื่อเข้ามาฝั่งออนเซ็นแล้ว จะมีเค้าเตอร์ให้รับถุงอุปกรณ์ครับ ในถุง จะมีผ้าขนหนู ชุด Jinbei ของญี่ปุ่นที่ไว้เปลี่ยนตอนพักผ่อนอยู่ภายใน และ สายข้อมือ locker ครับ

เมื่อเข้ามาจะเจอโซน locker ครับดูตามหมายเลขที่ข้อมือ นำไปสแกนที่ตู้ได้เลย ในโซนนี้เป็นที่แต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า มีอ่างล้างหน้า ไดร์เป่าผม รวมอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆให้ครบครัน เรียกได้ว่า มาใช้บริการตัวเปล่ากันได้เลย

ข้างในออนเซ็นนี้จะมีทั้งหมด 8 จุดครับ แบ่งเป็น Seasonal Onsen, Kusatsu Onsen, Soda Bath, Vitality Pool, Himalayan Salt Sauna, Steam Room, Cold Plunge Pool, และ Kusatsu Foot Bath โดยแต่ละบ่อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แร่ที่นี่ก็นำเข้าจากญี่ปุ่นครับ นอกจากนี้ยังมี Akasuri Body Scrub Room สำหรับลูกค้าที่ต้องการขัดตัวด้วย เป็น package เสริมจากบริการของออนเซ็น เรียกได้ว่าการบริการตามแบบฉบับของญี่ปุ่นเลยครับ

ที่อาบน้ำของที่นี่แบ่งแยกเป็นส่วนๆ อุปกรณ์ทุกอย่างสะอาดมาก และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมด ก็เป็นของ PAÑPURI เอง ที่เรียกได้ว่ามีคุณภาพที่ดีมากๆอยู่แล้ว จึงมั่นใจได้เลยครับ ว่าราคานี้ คุ้มค่าแน่นอน

นอกจากนี้ที่นี่ยังมี Onsen Route สำหรับใครที่มาแล้วเริ่มต้นไม่ถูกว่าจะเริ่มที่บ่อไหนดี หรือว่ามีความต้องการผ่อนคลายแบบไหนเป็นพิเศษ ทางสปาได้จัดเส้นทางเป็น guideline ให้ โดยมีด้วยกัน 4 ด้านคือ สำหรับคนที่ต้องการ Deep Sleep, De-Stress, Energy Boost, Clean Detox สามารถเลือกและแช่ตามคำแนะนำได้เลยครับ สำหรับวันนี้ ผมเลือก De-Stress Route สำหรับใครที่ทำงานหนักมาทั้งวัน ใช้สมองจนปวดหัว แนะนำให้ตามเส้นทางนี้เลยครับ ผ่อนคลายมากๆ ตอนสุดท้ายเฟรชสุดๆ

เก็บภาพบรรยากาศภายในมาให้ชมกันครับ นอกจากความสบายของออนเซ็นแล้วที่นี่ยังมีวิวกรุงเทพฯมุมสูง ให้ได้นั่งมองกันอีกด้วย ภาพทั้งหมดที่เราถ่ายมา ได้รับการอนุญาตจากทางออนเซ็นแล้วครับ ซึ่งโดยปกติจะไม่อนุญาตให้นำอุปกรณ์ใดใดเข้าไปในบริเวณห้องแช่ออนเซ็นครับ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าที่มาใช้บริการนั่นเองครับ

นอกจากในห้องออนเซ็นแล้ว ยังมีโซนพักผ่อนให้อีกด้วยสำหรับใครที่แช่ออนเซ็นเสร็จสามารถสวมชุด Jinbei แล้วมานอนพักผ่อนได้ครับ มี infused water บริการด้วยครับ จะนั่งพักผ่อน หรือหยิบ Notebook, ipad มานั่งทำงานไปด้วยก็ได้ครับ

มาต่อกันที่โซนสุดท้ายครับ สำหรับคนที่จะใช้บริการนวดสปาที่นี่จะมีอีกโซนแยกห้องเพื่อสำหรับสปาโดยเฉพาะครับ โดยสามารถเลือก package ที่เป็นสปาและ ออนเซ็นส่วนตัวได้ด้วยราคาจะคุ้มค่ากว่าครับ

วันนี้เราใช้บริการนวดน้ำมันครับ ห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับ 2 ท่านครับ มีอุปกรณ์ทุกอย่างอยู่ด้านใน เหมือนกับเรามาพักผ่อนที่โรงแรมเลยครับ ห้องกว้างขวาง สะอาดตา และพนักงานมีความเป็นมืออาชีพมากๆครับ โดยพนักงานจะมีรายละเอียดให้กรอกถึงความต้องการ น้ำหนักการนวดต่างๆ หรือจุดไหนที่ต้องการให้เน้นเป็นพิเศษครับ

หลักจากนวดเสร็จก็มีบริการ Organic Rice Tea เสิร์ฟแบบร้อน คู่กับแตงโม organic เช่นกัน สำหรับใครที่นวดน้ำมันแล้วจะไม่สามารถกลับไปแช่ออนเซ็นต่อได้นะครับ แนะนำว่าให้แช่ออนเซ็นให้เสร็จก่อนแล้วนวดน้ำมันเป็นโปรแกรมสุดท้ายครับ

ที่พักผ่อนกลางเมืองที่ครบวงจร คุณภาพขนาดนี้ มีไม่กี่ที่ในกรุงเทพฯ นะครับ อันนี้ takeoff.bkk การันตีเลย ว่าดีจริง คุ้มค่าแน่นอนครับ