Surf and Turf

ร้านเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยม คุณภาพและความอร่อยระดับโรงแรมห้าดาว ที่สายเนื้อต้องห้ามพลาด

วันนี้เรามาเอาใจสายเนื้อกันแบบเน้นๆ ใครที่เป็น meat lover ตัวจริงต้องพลาดไม่ได้เลย เพราะเราได้มาอยู่ที่ร้าน “Surf and Turf Oyster & Beef” กันค่ะ และตัวชูโรงของร้านนี้เลยก็คือ “เนื้อ” ระดับพรีเมี่ยม ที่ทางร้านได้คัดสรรมาอย่างดี คุณภาพและรสชาติแบบโรงแรม 5 ดาวเลยทีเดียว

ร้าน “Surf and Turf Oyster & Beef” เปิดให้บริการมามากกว่า 4 ปี โดยเชฟมากประสบการณ์ เชฟแบงค์ ด้วย concept หลักๆ คือทางร้านอยากให้ลูกค้าได้เห็นถึงความใส่ใจและความพิถีพิถันในการปรุงอาหารของเชฟ รวมไปถึงได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความสนใจในเรื่องอาหาร แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับตัวเนื้อวัวหรืออื่นๆกันอย่างใกล้ชิด ทางร้านจึงได้เลือกออกแบบให้เป็นลักษณะ “ครัวแบบเปิด” ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกเป็นกันเองกับลูกค้าแล้ว ยังให้ประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับเนื้อและอาหารกลับไปด้วยค่ะ

โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ในโครงการ “สวนดอกลำเจียก” บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งอยู่ติดกับ Home Pro ราชพฤกษ์เลยค่ะ ทางร้านเปิดให้บริการ วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี ช่วง 17.00 - 23.00, วันศุกร์ ช่วง 17.00 - 23.30, วันเสาร์ ช่วง 11.30 - 23.30, วันอาทิตย์ ช่วง 11.30 - 23.00 และปิดให้บริการทุกวันอังคารค่ะ หากใครเดินทางโดยการขับรถมาก็ไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ เพราะทางโครงการสามารถรองรับรถได้ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ร้านตั้งอยู่เกือบหน้าสุดในบริเวณโครงการ ซึ่งหาได้ไม่ยากเลย ลักษณะภายนอกจะตกแต่งด้วยกระจกเกือบรอบด้าน และเน้นใช้โทนสีดำ โดยข้างในจะเน้นการตกแต่งแบบ Loft style ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองมากๆค่ะ

ทางเชฟแบงค์ได้เล่าให้เราฟังว่า ทางร้านมีเนื้อให้บริการหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น “เนื้อแองกัส”, “เนื้อดรายเอจ” หรือ “เนื้อไทยวากิว” คุณภาพสูง ซึ่งถูกคัดสรรมาอย่างดีโดยเชฟแบงค์เอง จากฟาร์มในประเทศไทยซึ่งเจ้าของมีความใส่ใจ หลงใหลและประสบการณ์ในการผลิตโคเนื้อ โดยมีเป้าหมายหลักคือการพัฒนามาตรฐานโคเนื้อไทย ให้ผู้คนได้ตระหนักว่า เนื้อไทย ก็มีคุณภาพสูงไม่แพ้ชาติอื่นๆเลยค่ะ

และเมนู highlight ของทางร้านที่เมื่อมาแล้วต้องห้ามพลาดเด็ดขาดเลยก็คือ “Manchakiri Wagyu” สเต็กเนื้อคัดรอง 3 ส่วน จากวัวมัญจาคีรีไทยวากิว ส่งตรงจากฟาร์มโคเนื้อคุณภาพ จังหวัดข่อนแก่น โดยเนื้อส่วนที่เลือกมาเราจะเห็นได้ชัดเลยว่ามีไขมันแทรกเป็นลายสวยงาม น่าทานมากๆ

เราเลือกความสุกระดับ medium rare จานนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับเห็ดออรินจิ กระเทียม และเพิ่มกิมมิคให้ตัวเมนูด้วย “เกลือหิมาลายัน” สีชมพู เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับตัวเนื้อ โดยเกลือหิมาลายันเป็นแร่เกลือที่บริสุทธิ์มากๆ มีประโยชน์ต่อร่างกายสูง ตัวเนื้อเมื่อทานเข้าไปแล้ว คือพูดได้เลยว่า ปังไม่ไหว ด้วยความที่มีไขมันแทรกอยู่ทำให้เมื่อทานเข้าไปแล้วมีความ juicy มากๆ และนุ่มมากๆ ไม่เหนียว รับรองว่าถูกใจสายเนื้อกันอย่างแน่นอน

มาต่อกันที่เมนูเบาๆ อย่าง “Truffle Soup” ซุปครีมเห็ดทรัฟเฟิล ที่รสชาติไม่เบาเลยค่ะ เพราะทางร้านใช้ทรัฟเฟิลอย่างดี และใส่ลงไปในจานนี้กันแบบคุ้มค่าราคามากๆ เพียงแค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าทรัฟเฟิลมาแบบไม่กั๊กกันอย่างแน่นอน ตัวครีมซุปก็ทำมาได้ดี รสชาติละมุนกลมกล่อมเข้ากับตัวทรัฟเฟิลได้เป็นอย่างดี

ตามด้วยอีกหนึ่ง special menu ของทางร้าน “Grilled Beef Tongue with Garlic Paste Fried Rice“ หรือ ข้าวหน้าลิ้นวัว 48 ชั่วโมง โดยตัวลิ้นวัวเนี่ย จะถูกปรุงให้สุกด้วยวิธีที่เรียกว่า “Sous Vide” ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ภายใต้สูญญากาศ เป็นวิธีการปรุงสุกอาหารหารวิธีหนึ่ง ด้วยการนำวัตถุดิบใส่ลงไปในถุงสูญญากาศ และนำไปไว้ในน้ำร้อนที่ถูกควบคุมอุณหภูมิไว้ โดยข้อดีของวิธีนี้เนี่ยคือ การที่ตัววัตถุดิบจะไม่สัมผัสกับน้ำโดยตรง ทำให้ตัววัตถุดิบยังคงคุณภาพ รสชาติ และคุณค่าทางอาหารได้เป็นอย่างดี

ทางร้านจะนำลิ้นวัวที่ผ่านการ Sous Vide มาอย่างดีแล้ว 48 ชั่วโมง มาย่างไฟ และเสิร์ฟพร้อมกับข้าวผัดกระเทียมสูตรพิเศษของทางร้าน ซึ่งผัดกับเนยและมันของเนื้ออย่างดี ตามด้วยไข่ดองญี่ปุ่นด้านบน

ต้องบอกก่อนเลยว่าปกติเราเป็นคนที่ไม่ทานลิ้นวัวสักเท่าไหร่นัก แต่พอได้ชิมจานนี้แล้วคือต้องเปลี่ยนใจทันที ตอนทานเข้าไปแล้วไม่รู้สึกเหมือนลิ้นวัวที่เคยทานมาก่อน ตัวลิ้นวัวคือบางพอดีคำ ไม่เหนียว และไม่มีกลิ่นเลย พอยิ่งได้ทานคู่กับข้าวผัดกระเทียมของทางร้านที่มีความหอมของเนยผสมกับรสชาติของมันของเนื้อคือดีมากๆ เป็นอีกเมนูที่เราแนะนำเลยค่ะ

ปิดท้ายด้วยเมนูแนะนำของทางร้านอย่าง “Surf and Turf Spaghetti” เมนูนี้จะเสิร์ฟมาคู่กับเบค่อน ชีส พริกแห้งซึ่งช่วยตัดรสชาติกับตัวครีมได้เป็นอย่างดี และที่พิเศษสุดๆเลยของตัวเมนูนี้คือ “Ikura” หรือไข่ปลาแซลม่อน ที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้แบบเน้นๆ โดยทางร้านตั้งใจคิดเมนูนี้ขึ้นมาเพื่อให้ถูกปากกับคนทุกวัย รวมถึงเด็กๆ รสชาติไม่หนักมากเกินไป รับประทานง่าย รสชาติของ Ikura ด้านบนเมื่อทานคู่กับตัวเส้นและครีมด้านล่างแล้วเข้ากันอย่างได้ดีมากๆ ความเค็มของตัวไข่ปลาแซลม่อนช่วยตัดกับรสความมันของวัตุดิบอื่นได้ดีเลยทีเดียว

หากสายเนื้อคนไหนกำลังมองหาร้านเนื้อดีๆในกรุงเทพ บนถนนราชพฤกษ์กันอยู่ล่ะก็ แนะนำว่าไม่ควรพลาดร้าน “Surf and Turf Oyster & Beef” เลยค่ะ นอกจากรสชาติและความคุ้มค่าที่ได้จากอาหารของทางร้านแล้วนั้น ยังถือเป็นการสนับสนุน และส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคไทยวากิวไปพร้อมกัน ซึ่งบอกได้เลยว่า “วัวไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก” จริงๆค่ะ